พุทธศาสนพิธี

http://non40422.siam2web.com
 

พุทธศาสนพิธี

           

            พุทธศาสนพิธี คือแบบอย่างหรือแบบแผนต่าง ๆ ที่พึงปฏิบัติในทางพระพุทธศาสนา เหตุที่เกิดมีพุทธศาสนพิธี ก็เนื่องมาจากหลักคำสอนของพระพุทธศาสนา ที่เรียกว่า โอวาทปาติโมกข์ พระพุทธเจ้าได้ทรงวางหลักการสำคัญไว้สามประการ คือ
            ในคำสอนของพระพุทธศาสนา

                   สอนไม่ให้ทำความชั่วทั้งปวง        สพฺพปาปสฺส อกรณํ
                   สอนให้อบรมกุศลให้ถึงพร้อม        กุศลสูป สมฺปทา
                   สอนให้ทำจิตใจของตนให้ผ่องแผ้ว        สจิตต ปริโยทปนํ

 

            ด้วยหลักการทั้งสามประการนี้ พุทธศาสนิกชนต้องพยายามเลิกละความประพฤติชั่วทุกอย่าง จนเต็มความสามารถ พยายามสร้างกุศลสำหรับตนให้พร้อมเท่าที่จะสามารถทำได้ และพยายามชำระจิตใจให้ผ่องใสอยู่เสมอ ทั้งหมดเป็นการพยายามทำดีที่เรียกว่า ทำบุญ การทำบุญนี้ พระพุทธเจ้าทรงแสดงวัตถุคือ ที่ตั้งอันเป็นทางไว้โดยหลักย่อ ๆ สามประการเรียกว่า บุญกิริยาวัตถุ อันประกอบด้วย

            ทาน  การบริจาคของ ของตนให้เป็นประโยชน์แก่ผู้อื่น

            ศีล  การรักษา กาย และ วาจาให้สงบเรียบร้อยไม่ล่วงบัญญัติที่ห้ามไว้

                   หมวดกุศลวิธี     ว่าด้วยพิธีบำเพ็ญกุศล
                   หมวดบุญพิธี      ว่าด้วยพิธีทำบุญ
                   หมวดทานพิธี      ว่าด้วยพิธีถวายทาน
                   หมวดปกิณกะ      ว่าด้วยพิธีเบ็ดเตล็ด


กุศลพิธี

            กุศลพิธี คือพิธีกรรม อันเกี่ยวด้วยการอบรมความดีงามทางพระพุทธศาสนา ทั้งตัวบุคคลและหมู่คณะ ได้แก่ การแสดงตนเป็นพุทธมามกะ พิธีเวียนเทียนในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา พิธีรักษาอุโบสถ ส่วนพิธีเข้าพรรษา พิธีถือนิสสัย พิธีทำสามีจิกรรม พิธีทำวัตรสวดมนต์ พิธีกรรมวันธรรมสวนะ พิธีสังฆอุโบสถ และพิธีออกพรรษา เป็นพิธีกรรมที่พระภิกษุสงฆ์พึงปฏิบัติเพื่อความดีงามในพระวินัย

บุญวิธี
            บุญวิธี คือพิธีทำบุญ หรือทำความดีเนื่องด้วยประเพณีในครอบครัวของพุทธศาสนิชน เป็นประเพณีที่เกี่ยวกับชีวิตของคนทั่วไป  แบ่งออกเป็นสองประเภทคือ ทำบุญงานมงคล และทำบุญงานอวมงคล นอกจากนี้ยังมีงานทำบุญร่วมกันเป็นส่วนรวม ของชุมชนในระดับต่าง ๆ
            งานหลักของการทำบุญ คือการเลี้ยงพระ เรียกว่า การทำบุญเลี้ยงพระ มีการนิมนต์พระสงฆ์มาเจริญพระพุทธมนต์ แล้วถวายภัตตาหารกับถวายทานอย่างอื่นแด่พระภิกษุสงฆ์ เป็นอันเสร็จพิธี
            การทำบุญงานมงคล ได้แก่ การทำบุญในโอกาสต่าง ๆ เพื่อความเป็นศิริมงคล ส่วนการทำบุญงานอวมงคล เป็นการทำบุญเกี่ยวกับการตาย มีการทำบุญหน้าศพและการทำบุญอัฐิ
            พิธีฝ่ายสงฆ์ มีพิธีเจริญพระพุทธมนต์ พิธีสวดพระพุทธมนต์ พิธีสวดพระอภิธรรม พิธีสวดมาติกา พิธีสวดแจง พิธีสวดถวายพรพระ พิธีอนุโมทนาในกรณีต่าง ๆ พิธีพระธรรมเทศนา และพิธีพิเศษเฉพาะงาน เช่น พิธีทำบุญตักบาตรเทโวโรหนะ เป็นต้น

ทานพิธี

                ปาณาติปาตา   เวรมณี   สิกฺขาปทํ   สมาทิยามิ
                อทินฺนาทานา   เวรมณี   สิกขาปทํ   สมาทิยามิ
                อพฺรหมฺจริยา   เวรมณี   สิกขาปทํ   สมาทิยามิ
                มุสาวาทา   เวรมณี   สิกขาปทํ   สมาทิยามิ
                สุราเมรยมชฺชปมาทฏฐานา   เวรมณี   สิกขาปทํ   สมาทิยามิ
                วิกาลโภชนา   เวรมณี   สิกขาปทํ   สมาทิยามิ
                นจฺจคีตวาทิตวิสูกทสฺสนา มาลาคนฺธวิเลปนธารณ มณฺฑนวิภูสนฏฺฐานา   เวรมณี   สิกขาปทํ   สมาทิยามิ
                อุจาสยนมหาสยนา   เวรมณี   สิกขาปทํ   สมาทิยามิ
                อิมํ อฏฺฐงฺ สมนาคตํ พุทฺธปญฺญตฺตํ อุโปสถํ อิมญฺจ รตฺตึ อิมญฺจ ทิวสํ   สมฺมเทว   อภิรกฺ ขิตุ ํ   สมาทิยามิ

                ต่อจากนี้พระสงฆ์จะว่า
                อิมานิ อฏฺฐสิกขา ปทานิ อุโปสถวเสน มนสิกรตฺวา สาธุกํ อปฺปมาเทน รกฺขิตพฺพานิ
                    พึงรับว่า อาม ภนฺเต
                    พระสงฆ์จะว่า อานิสงส์ของศีลต่อไป ดังนี้
                        สีเลน สุคตึ ยนฺติ  สีเลน โภคสมฺปทา
                        สีเลน  นิพฺพุตึ ยนฺติ ตสฺมา สีลํ วิโสธเย
                    พึงกราบพร้อมกันสามครั้ง แล้วนั่งพับเพียบประนมมือฟังธรรมต่อไป เมื่อพระแสดงธรรม
            เมื่อพระสงฆ์แสดงธรรมจบแล้ว ทุกคนพึงให้สาธุการและสวดประกาศตนพร้อมกัน ดังนี้

                สาธุ สาธุ สาธุ  
                อหํ พุทฺธญฺจ ธมฺมญฺจ    สงฺฆญฺจ  สรณํ คโต
                อุปาสกตฺตํ เทเสสึ    ภิกฺขุสงฺฆสฺส  สมฺมุขา
                เอตํ เม สรณํ เขมํ    เอตํ สรณํมุตฺตมํ
                เอตํ สรณมาคมฺม    สพฺพทุกฺข ปมุจฺจเย
                ทุกฺขนิสฺสรณสฺเสว    ภาคี อสฺสํ อนาค เต

            ถ้าเป็นหญิง คำว่า คโต เปลี่ยนเป็นคตา  คำว่าอุปาสกตฺตํ เป็น อุปาสิกตฺตํ
คำว่า ภาคี อสฺสํ เป็น ภาคีนิสฺสํ
            เมื่อสวดประกาศจบแล้ว พึงกราบพร้อมกันอีกสามครั้ง เป็นเสร็จพิธีตอนเช้า พอได้เวลาบ่าย หรือเย็นจวนค่ำ พึงประชุมกันทำวัตรค่ำ เมื่อทำวัตรจบแล้ว พึงนั่งคุกเข่ากราบพระสามครั้ง แล้วกล่าวคำอาราธนาพิเศษโดยเฉพาะ ดังนี้
  

                จาตุทฺทสี ปณฺณรสี    ยา จ ปกฺขสฺส อฏฺฐมี
                กาลา พุทฺเธน ปญฺญตฺตา    สทฺธมฺมสฺสวนสฺสิเม
                อฏฺฐมีโข อยนฺทานิ    สมฺปตฺตา อภิลกฺขิตา
                เตนายํ ปริสา ธมฺมํ    โสตุ ํ อิธ สมาคตา
                สาธุ อยฺโย ภิกฺขุ สงฺโฆ    กโรตุ ธมฺมเทสนํ
                อยญฺจ ปริสา สพฺพา    อฏฺฐิกตฺวา สุณาตุ ตนฺติ ฯ

            คาถาอาราธนาธรรมนี้ใช้เฉพาะวันพระ ๘ ค่ำ ทั้งข้างขึ้นข้างแรม ถ้าเป็นวันพระ ๑๕ ค่ำ เปลี่ยนคำว่า อฏฺฐมีโข เป็น ปณฺณรสี ถ้าเป็นวันพระ ๑๔ ค่ำ เป็น จาตุทฺทสี
            เมื่ออาราธนาจบแล้ว พระสงฆ์จะขึ้นแสดงธรรม พอเทศน์จบ ทุกคนพึงให้สาธุการ และสวดประกาศตนพร้อมกัน แล้วสวดประกาศต่อท้าย ดังนี้

                กาเยน วาจาย ว เจตสาวา    พุทฺเธ กุกมฺมํ ปกตํ มยา ยํ
                พุทโธ ปฏิคฺคณฺหตุ อจฺจยนฺตํ    กาลญฺตเร สํวริตุ ํ ว พุทฺเธ
                กาเยน วาจาย ว เจตสาวา     ธมฺเม กุกมฺมํ ปกตํ มยายํ
                ธมฺโม กฏิกฺคณฺหตุ อจฺจยนฺตํ    กาลญฺตเร สํวริตุ ํ ว ธมฺเม
                กาเยน วาจาย ว เจตสาวา     สงฺเฆ กุกมฺมํ ปกตํ มยายํ
                สงฺโฆ ปฏิกฺคณฺหตุ อจฺจยนตํ    กาลญฺตเร สํวริตุ ํ ว สงฺเฆ

            เมื่อสวดประกาศตอนท้ายเทศน์จบแล้ว ลากลับได้ทันที คำลากลับ มีดังนี้
                    หนฺททานิ มยํ  ภนฺเต อาปจฺฉาม        พาหุกิจจา มยํ พหุกรณียา
                พระสงฆ์ผู้รับการลาพึงกล่าว ดังนี้
                    ยสฺสทานิ ตุมฺเห กาลํ มญฺยถ
                ผู้ลาพึงรับพร้อมกันว่ สาธุ ภนฺเต แล้วกราบพร้อมกันสามครั้งเป็นเสร็จพิธี


            ทานพิธี คือพิธีถวายทานต่าง ๆ เป็นการถวายวัตถุที่ควรให้เป็นทาน ในพระพุทธศาสนาเรียกวัตถุที่ควรให้เป็นทานว่า ทานวัตถุ  จำแนกได้เป็นสิบประการคือ ภัตตาหาร น้ำ ผ้า เครื่องนุ่งห่ม ยานพาหนะ มาลัย และดอกไม้เครื่องบูชาต่าง ๆ ของหอม หมายถึงธูปเทียนบูชาพระ เครื่องลูบไล้ เครื่องที่นอนอันควรแก่สมณะ ที่อยู่อาศัย เครื่องตามประทีป
            การถวายทานนิยมทำสองอย่างคือ ถวายเจาะจงเฉพาะภิกษุรูปใดรูปหนึ่ง เรียกว่า ปาฏิปุคลิกทาน และถวายไม่เจาะจงภิกษุรูปใด มอบเป็นของกลางให้สงฆ์เรียกว่า สังฆทาน
            การถวายทานวัตถุทั้งสิบประการดังกล่าวมีคำถวายแตกต่างกันออกไป แยกออกได้เป็นพวก ๆ ตามปัจจัยเครื่องอาศัยสี่อย่างของบรรพชิต คือ จีวร บิณฑบาต เสนาสนะ และ คิลานเภสัช การถวายทานนิยมถวายเป็นสองแบบคือ ถวายในกาลที่ควรถวายสิ่งนั้น ๆ  เรียกว่า กาลทาน และถวายไม่เนื่องด้วยกาลอีกแบบหนึ่ง

ข้อปฏิบัติในการประกอบพุทธศาสนพิธี

            ในการประกอบพุทธศาสนพิธี พุทธศาสนิกชนจะปฏิบัติตนด้วยความเรียบร้อย สำรวม ด้วยอาการอันแสดงความเคารพตลอดพิธี มีวิธีการปฏิบัติที่ถือกันเป็นประเพณี เช่น วิธีแสดงความเคารพพระภิกษุ วิธีประเคนของแด่ภิกษุ วิธีทำหนังสืออาราธนา และทำใบปวารณาถวายจตุปัจจัย วิธีอาราธนาศีล อาราธนาพระปริตร อาราธนาธรรม วิธีกรวดน้ำ วิธีจับด้ายสายสิญจน์ วิธีตั้งโต๊ะหมู่บูชาพระพุทธรูป และพิธีของพระภิกษุสงฆ์ก็มีวิธีบังสุกุลในพิธีทำบุญอายุ และพิธีศพ วิธีบอกศักราชในการแสดงพระธรรมเทศนา
            พุทธศาสนพิธี  มีระเบียบพิธีโดยเฉพาะในแต่ละพิธี งานต่าง ๆ ตามประเพณีเกี่ยวกับชีวิต งานวันนักขัตฤกษ์ และเทศกาลต่าง ๆ จะมีพุทธศาสนพิธีแทรกอยู่ทั้งสิ้น เช่นงานมงคลสมรส งานทำบุญฉลองต่าง ๆ งานศพ งานวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา ฯลฯ
พระราชพิธีพระราชกุศลและรัฐพิธี

            งานพิธีตามประเพณีไทย จะมีพิธีทางพระพุทธศาสนาประกอบอยู่ด้วย พระมหากษัตริย์ไทยทรงเป็นพุทธมามกะ และเอกอัครศาสนูปถัมภก ดังนั้นในงานพระราชพิธี พระราชกุศล และรัฐพิธีต่าง ๆ จึงมีพุทธศาสนพิธี ซึ่งเรียกว่า พิธีสงฆ์ เป็นส่วนประกอบอยู่ด้วยทั้งสิ้น
            พระราชพิธี  เป็นงานหลวงสำหรับพระมหากษัตริย์ จัดขึ้นประจำตามกำหนดกาล โดยเป็นพระราชพิธีที่สืบเนื่องมาแต่โบราณกาล ประกาลหนึ่ง และเป็นการพิเศษที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้จัดเป็นงานพระราชพิธีอีกประการหนึ่ง
            งานพระราชพิธีประการแรก เป็นงานที่กำหนดเป็นประจำตามกำหนดกาลที่เวียนมาถึงทุกรอบปี เช่นพระราชสงกรานต์  พระราชพิธีฉัตรมงคล พระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา เป็นต้น
            งานพระราชพิธีบางงานมีแต่พิธีสงฆ์อย่างเดียว บางงานก็มีทั้งพิธีสงฆ์ และพิธีพราหมณ์ร่วมกัน และบางทีก็มีพิธีโหรรวมอยู่ด้วย พิธีสงฆ์มีเจริญพระพุทธมนต์ เทศน์ สดับปกรณ์
            งานพระราชกุศล  เป็นงานที่พระมหากษัตริย์ทรงบำเพ็ญพระราชกุศล บางงานก็ต่อเนื่องกับงานพระราชพิธี เช่น พระราชกุศลทักษิณานุปาทาน พระบรมอัฐิสมเด็จพระบรมราชบุรพการี จัดทำต่อเนื่องกับงานพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา หรือพระราชพิธีฉัตรมงคล งานที่ไม่เกี่ยวกับงานพระราชพิธีก็มี เช่น พระราชกุศลมาฆบูชา เป็นต้น
            รัฐพิธี  เป็นงานพิธีที่รัฐบาล หรือทางราชการ กำหนดขึ้นประจำปีโดยเชิญเสด็จพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเป็นประธานในการประกอบพิธี เช่น รัฐพิธีที่ระลึกวันจักรี รัฐพิธีที่ระลึกวันสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช เป็นต้น งานใดจะจัดให้มีพิธีสงฆ์ด้วยหรือไม่นั้น สุดแต่สำนักพระราชวังจะกำหนด และนำความขึ้นกราบบังคมทูล

Advertising Zone    Close

ยังไม่ได้ลงทะเบียน

เว็บไซต์นี้ยังไม่ได้ลงทะเบียนยืนยันการเป็นเจ้าของเว็บไซต์กับ Siam2Web.com